วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

วิธีการขับรถเกียร์ออโต้ อย่างถูกต้อง และปลอดภัย



อัพเดท: 18 เมษายน 2554 11:30  อ่าน: 12,313 หมวด: เทคนิคการขับขี่รถยนต์

วันนี้ ทางทีมงาน ได้นำเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับวิธีการขับรถเกียร์ออโต้ อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ซึ่งทุกวันนี้เราคงต้องยอมรับครับว่า รถยนต์ที่จำหน่ายในบ้านเรานั้น ส่วนใหญ่มาพร้อมระบบเกียร์ ออโต้ที่ส่วนหนึ่งที่ระบบส่งกำลังแบบนี้ได้รับความนิยมนั้น ก้มาจากความสะดวกสบายในการใช้งานที่สามารถตอบสนองรูปแบบการขับขี่จริงได้ ง่าย และไม่ยุ่งยาก และขอแค่เพียงเวลา นาที ในการเรียนรู้คุณก็สามารถขับได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ด้วยความง่ายทำให้คนที่ขับขี่ระบบเกียร์อัตโนมัติหลายคน ไม่ได้นึกอยากที่จะเรียนรู้การขับขี่ระบบเกียร์แบบนี้ที่ถูกต้อง ซึ่งนอกจากจะให้การขับที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีผลต่ออัตราประหยัดน้ำมันที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย
พื้นฐานที่ต้องจำ

สิ่งแรกที่คุณควรเรียนรู้เอาไว้เริ่มเลย คือ กียร์อัตโนมัติจะทำการขึ้นเกียร์หรือลดอัตราทดเองเมื่อผู้ขับขี่ลดอัตราเร่งน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถนั่งที่การยิ่งเร่งน้อยเกียร์ก็จะยิ่งเปลี่ยนไว ขึ้น เช่นเดียวกันกับโปรแกรมเกียร์ที่ทำออกมาตอบสนองการขับขี่ที่เป็นสิ่งที่หลาย คนมองข้ามไป
โปรแกรมเกียร์นั้นคือตำแหน่งที่บอกถึงลักษณะการใช้งานเกียร์ ที่มี P R N D 3 2 และ L ซึ่งอาจแตกต่างไปบ้างตามการเรียกของแต่ละยี่ห้อรถ แต่ทั้งหลายทั้งปวงนั้น โดยมากจะมีลักษณะการทำงานเดียวกัน แต่ด้วยการมองข้าม ทำให้หลายคนคิดว่าแค่ปรับเดินหน้าถอยหลังได้ ก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ
โปรแกรมเกียร์ เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
ความจริงแล้วแค่ทำให้รถเดินหน้าถอยหลังนั้น ถือว่าเป็นเพียงข้อพื้นฐานมากของการเลือกใช้รถเกียร์ออโต้ เพราะโปรแกรมเกียร์ที่ใส่มาให้มากมายนั้นถือว่าเป็นของที่มีประโยชน์ที่ต้อง ใช้ให้ถูกตามสถานการณ์การขับขี่ด้วย
โดยมากโปรแกรมเกียร์ที่หลายคนมองข้ามไปนั้น คงไม่พ้น และ L ซึ่ง บางคนซื้อรถมาแทบไม่ได้ใช้งานเลยก็เป็นไปได้ ทั้งที่ตำแหน่งเกียร์ทั้ง 2 นี้ล้วนมีความสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังมองรถเกียร์อัตโนมัติในการใช้งานในเขตเมือง
ตามปกติแล้วการใช้งานระบบเกียร์อัตโนมัตินั้น ตำแหน่ง จะแทนการใช้ตำแหน่งเกียร์ เท่า นั้น ซึ่ง จะมีผลดีในเวลาที่คุณผจญกับสภาวะการจราจรติดขัดและค่อยๆกระดื๊บๆ ไปข้างหน้า และในอีกกรณีที่สำคัญนั้นคือ การขึ้นทางชัน ซึ่งการที่เราเลือกเกียร์ นั้นจะช่วยให้ง่ายยิ่งขึ้นในการไต่เนินสูง และยังช่วยในการหน่วง เวลาเราลงทางลาดชัน ในทางกลับกันด้วย
สำหรับตำแหน่ง 2 นั้น เป็นการแทนการสับเกียร์ ขึ้น เพียง 2 เกียร์ ซึ่งบางคนไม่แน่ใจว่าต้องใช้งานที่ไหนกันแน่ตำแหน่งเกียร์ นั้น จะมีประโยชน์อย่างมากเมื่อคุณขับรถในซอย เพราะ การที่เราใช้เกียร์ 2 ตำแหน่ง ทำให้สามารถหยุดรถยามฉุกเฉินได้ไวกว่าการใช้ตำแหน่ง D ที่จะขึ้นเกียร์ทั้งหมด แต่การใช้ตำแหน่งนี้ ต้องใช้วิจารณญาณของคนขับกับเส้นทางร่วมด้วย

Overdrive -Kick Down ความเหมือนที่แตกต่าง
ข้อหนึ่งที่ทำให้หลายคนพลาดไปอย่างมหันต์ เกี่ยวกับการใช้งานเกียร์อัตโนมัตินั้น คงไม่พ้นเรื่องที่เถียงกันเกี่ยวกับการเร่งแซง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งที่เรียกว่า Over drive ซึ่งจะมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับการลดเกียร์ 1 จังหวะ เมื่อพูดถึงระบบเกียร์ธรรมดา
การใช้งานระบบ Overdrive นั้นหลายคนเข้าใช้ผิดว่า Over drive off คือการทำให้รถวิ่งประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น แต่ความจริงแล้ว การปิดระบบไว้จะเป็นการทำให้รถวิ่งโดยตัดตำแหน่งเกียร์สูงสุดออกไป ซึ่งทำให้รถมีการกินน้ำมันผิดปกติ แต่การเร่งแซงด้วยปุ่ม overdrive นั้นมีข้อดีที่ไม่ต้องกดคันเร่งมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้กินน้ำมันมากเกินความจำเป็น แต่ต้องไม่ลืมที่จะกดสวิทช์ออนกลับหลังใช้งานด้วย
อีกวิธีที่เราหลายคนใช้ในการเร่งแซงนั้น คงไม่มีใครไม่รู้จักวิธีที่เรียกว่า Kick down .... ที่เรามักนิยมการใช้การเร่งแวงแบบนี้มากกว่าวิธีอื่น ...
การ Kick Down นั้นจะทำงานเมื่อรถตรวจพบว่า ผู้ขับขี่มีการใช้คันเร่งมากกว่าปกติ โดยมากคือ เมื่อใช้คันเร่งเกิน 70- 80 % ระบบเกียร์ก็เข้ามารับช่วงในการเพิ่มอัตราทดของรถ เพื่อช่วยอัตราเร่งให้ดียิ่งขึ้น และแน่นอนการที่เรากดคันเร่งมาก ย่อมหมายถึงการกินน้ำมันมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อเรามองเปรียบเทียบแล้ว การใช้ระบบ Overdrive จะให้ประสิทธิผลในการแซงที่ดีกว่าและกินน้ำมันน่าจะน้อยกว่า เมื่อเทียบกับการ kick Down ที่จะต้องกดคันเร่งลงไปในระดับหนึ่งก่อนที่ระบบเกียร์จะตอบสนองต่อการขับขี่ ของเรา ในกรณีที่รถคุณไม่มีปุ่ม Overdrive แต่มีตำแหน่งเกียร์ 3 นั้น...นั่นคือตำแหน่งที่ช่วยในการเร่งแซงโดยที่คุณไม่ต้องคิกดาวน์มีผลเทียบเที่ยวกับ Overdrive

Walking Speed...ไหลได้ไหล
ข้อดีอย่างหนึ่งของระบบเกียร์อัตโนมัตินั้น คงไม่พ้นเมื่อเราแตะเบรคแล้วปล่อย รถจะสามารถเคลื่อนตัวได้เองโดยที่เราไม่ต้องกดคันเร่งช่วยเลย
หลายคนมักจะคิดว่าเมื่อเราปล่อยเบรคต้องเดินคันเร่งเพื่อทำให้รถไปข้าง หน้า แต่ถ้าหากคุณตกอยู่ในสภาวะการจราจรหยุดนิ่งสลับเคลื่อนตัวช้า การปล่อยเบรคให้รถไหลไปข้างหน้าเรื่อยๆ แล้วแตะเมื่อต้องการหยุด โดยไม่ต้องเดินคันเร่งนั้น จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น...และทำให้ระบบเครื่องยนต์เรียนรู้การขับ ขี่ของคุณด้วย

จอดหยุดนิ่งนาน..ต้องเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์
นี่เป็นหนึ่งคำถามที่เถียงกันไม่รู้จบ โดยเฉพาะหลายคนที่ขับรถในเมืองที่สงสัยว่า เมื่อรถติดหยุดนิ่งจะต้องปลดตำแหน่งเกียร์สลับเป็น N >>D หรือไม่
มีคนจำนวนมากคิดว่า นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อยามรถติด เพราะอีกเดี๋ยวรถก็ขยับ และคิดว่าไม่มีผลเสียจะเกิดขึ้น แต่ความจริงแล้ว การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ D >>>N ช่วยในการประหยัดน้ำมันด้วยส่วนหนึ่ง เพราะรอบเครื่องจะมีการเดินรอบลดลงเล็กน้อยด้วย ในขณะที่ตัว Torque convertor ในชุดเกียร์ถูกถอนไม่ส่งกำลัง ซึ่งการที่เราใส่ตำแหน่ง N ทุกครั้งที่รถติด หรือหยุดนิ่งเกิน 1 นาที นั้นนอกจากจะช่วยเรื่องประหยัดแล้ว ยังช่วยในเรื่องค่าบำรุงรักษาระบบเกียร์ที่ยืดอายุการใช้งานของเบรคในระบบ เกียร์ และคลัทช์ในตัว torque convertor ด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่อง ราวของระบบเกียร์อัตโนมัติที่หลายคนไม่เคยทราบมาก่อน และการใช้งานระบบเกียร์อัตโนมัติอย่างเข้าใจจริงนั้น นอกจากจะทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แล้ว ยังช่วยในความประหยัดน้ำมันได้เทียบเท่าระบบเกียร์ธรรมดาเลยด้วย



โดย

www.RakCar.com เว็บไซต์รวบรวมข่าวคราวเกี่ยวกับรถใหม่ทั้งรถในประเทศ และรถจากต่างประเทศ รวมถึงข้อมูลเทคนิคการดูแลรักษารถ

และถามตอบเกี่ยวกับปัญหารถยนต์ทุกรุ่นทุกประเภท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น